เตาเผาอุตสาหกรรม มีกี่ประเภท

เตาเผาอุตสาหกรรม ในปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่งในบ้านเรา โดยเฉพาะในแวดวงอุตสาหกรรม ครอบคลุมไปทุกธุรกิจ โดยหน้าที่ของเตาเผา ใช้สำหรับการหลอม การอบ โดยการใช้เตาเผาอุตสาหกรรม จะเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ ให้แก่วัสดุชิ้นงานนั้นๆนั่นเอง ทีนี้เราไปดูกันว่า เตาเผาอุตสาหกรรมใช้ทำอะไรได้บ้าง

  1. การหลอมโลหะ โดยใช้ในการหลอมโลหะประเภท เหล็ก ทองดอง อลูมิเนียม เพื่อให้วัสดุพวกนี้นำไปขึ้นรูปในขั้นตอนถัดไปในส่วนของการผลิต
  2. การอบ ใช้การอบเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้แก่วัสดุ เช่นการอบเซรามิก วัสดุโลหะต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเชิงกล
  3. เผาปูน ใช้สำหรับการผลิตปูนซีเมนต์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เตาเผา ในการเผาวัสดุให้เกิดเป็นเคมี เช่นการเผา หินปูน เป็นต้น
  4. การเผาชิ้นงานเซรามิก ใช้ในการเผาชิ้นงานที่ผลิตจากดิน จากการปั้นขึ้นรูปให้เกิดการแข็งตัวกลายเป็น ชิ้นงานเซรามิก นิยมอย่างมากในกลุ่มเครื่องปั้นดินเผา
  5. เผาเคมี โดยนิยมใช้กับวัสดุเฉพาะ ที่ต้องใช้เตาเผาอุตสาหกรรม อยู่ในขั้นตอนการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และ อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่นำไปปรับใช้กันอย่างแพร่หลาย

ซึ่งข้อดีของเตาเผาอุตสาหกรรม หากใช้ได้ถูกประเภทกับชิ้นงาน และใช้อย่างถูกวิธี มักส่งผลดีเป็นอย่างมาก เพราะเตาเผาที่ใช้สำหรับงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่จะมีระบบควบคุมอุณหภูมิที่ทำงานได้แม่นยำมากๆ ทำให้ได้ชิ้นงานออกมาได้ตรงตามที่เราต้องการ ช่วยลดระยเวลาให้เราได้ดีอีกด้วย เนื่องจากมีอุณหภูมิที่สูง ไม่ต้องรอระยะเวลามากนัก แถมสามารถปรับแต่งให้ใช้งานได้หลากหลายประเภท ที่สำคัญสามารถทำงานได้ต่อเนื่องกันเลยทีเดียว จริงๆมีข้อดีอีกเพียบไว้จะมาสรุปให้อย่างละเอียดในบทความต่อไป

แต่ถึงมีข้อดีมากมายขนาดไหน เตาเผาอุตสาหกรรม ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกันเราไปดูพร้อมๆกันเลย

  1. ค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติ เพราะต้องใช้พลังงานมากในระดับนึง โดยเฉพาะชิ้นงานที่ต้องใช้งานเตาเผาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการใช้พลังงานที่สูงกว่าปกติ
  2. ต้นทุนในการซื้อเตาเผาอุตสาหกรรมสูง แน่นอนว่าเตาเผาอุตสาหกรรม มีต้นทุนในการลงทุนค่อนข้างสูง ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง ไปถึงการซ่อมบำรุง อาจจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับในส่วนนี้
  3. บำรุงรักษายาก การดูแลเตาเผาอุตสาหกรรม ต้องใช้ความสม่ำเสมอต่อเนื่อง เนื่องจากมีขั้นตอนการดูแลที่ซับซ้อน และ มีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร หากดูแลไม่ดี อาจเกิดการรั่วได้ ส่งผลให้ชิ้นงาน หรือการใช้งานไม่มีประสิทธิภาพ
  4. การปล่อยมลพิษ เตาเผาอุตสาหกรรม บางรุ่นอาจใช้เชื้อเพลิงที่เป็นประเภทฟอสซิล ซึ่งส่งผลให้ปล่อยก๊าซมลพิษ Co2 ฝุ่นละออง รวมถึงสารพิษอื่นๆที่เป็นส่วนผสม ส่งผลที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
  5. ข้อจำกัดของขนาด เตาเผาประเภทอุตสาหกรรม มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ต้องเตรียมพื้นที่ให้พอดีที่จะติดตั้ง ซึ่งไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก และ มีข้อจำกัด
  6. ไม่เหมาะที่จะใช้กับชิ้นงานบางประเภท เตาเผาอุตสาหกรรม ไม่เหมาะกับวัสดุที่มีความไวต่ออุณหภูมิ อาจทำให้เกิดอันตราย และ สร้างความเสียหายให้แก่ชิ้นงานได้

ซึ่งการใช้เตาเผาอุตสาหกรรม ควรศึกษาให้ละเอียด ก่อนที่จะลงทุนซื้อ เนื่องจากมีราคาสูง และ ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่าง การใช้เตาเผาอุตสาหกรรมได้อย่างถูกต้องคือ

  1. ตรวจสอบชิ้นงานที่จะใช้ผลิต ว่าเหมาะกับเตาเผาประเภทใด
  2. ศึกษาข้อมูลเตาเผาอุตสาหกรรม แต่ละประเภทให้มากที่สุด
  3. เลือกเตาเผาอุตสาหกรรม ที่เหมาะกับชิ้นงาน ไม่โอเวอร์จนเกินไปทั้งการใช้พลังงาน และ การดูแลรักษา
  4. เตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมกับเตาเผาที่จะติดตั้ง ควรมีพื้นที่พอเหมาะ ไม่ให้เกิดความหนาแน่นระหว่างทำงาน สำหรับระยะยาว เพื่อป้องกันความเสียหายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้
  5. ตรวจเช็คบำรุงรักษาอย่างเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน และ ช่วยทำให้ชิ้นงานนั้นคงคุณภาพได้อย่างดีเยี่ยม

ทีนี้เราคงรู้จักเตาเผาอุตสาหกรรมกันมากขึ้นไม่มากก็น้อย ซึ่งเตาเผาอุตสาหกรรมในปัจจุบันก็แบ่งออกเป็นหลายประเภทเช่นกัน เรามาดูกันว่ามีประเภทใดกันบ้าง ซึ่งแต่ละประเภทการใช้งานก็แตกต่างกันออกไปอีกด้วย

1.เตาเผาความร้อนสูง (High-Temperature Furnace) ใช้สำหรับการเผาหรือให้ความร้อนในระดับอุณหภูมิสูง เช่น การหลอมโลหะ การอบวัสดุเซรามิก หรือตัวแทนอื่นๆ ที่ต้องการอุณหภูมิสูงเกิน 1,000 องศาเซลเซียส

2.เตาเผากระทะ (Rotary Kiln) ใช้สำหรับกระบวนการเผาผลิตภัณฑ์ที่ต้องหมุนเพื่อให้วัสดุสัมผัสความร้อนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การผลิตปูนซีเมนต์ การเผาหินปูน การผลิตแก้ว หรือการผลิตแร่ธาตุ เตาเผาแบบหลอม (Melting Furnace) ใช้ในการหลอมโลหะเพื่อทำให้โลหะเป็นของเหลว เช่น เตาเผาหลอมเหล็ก อลูมิเนียม หรือทองแดง ซึ่งมักจะใช้ในอุตสาหกรรมหลอมและรีไซเคิลโลหะ

3.เตาเผาสำหรับเซรามิก (Ceramic Furnace) ใช้ในการอบหรือเผาวัสดุเซรามิก เช่น กระเบื้องหรือเครื่องปั้นดินเผา โดยการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นจะมีความสำคัญในการได้คุณภาพของผลิตภัณฑ์

4.เตาเผาความร้อนต่ำ (Low-Temperature Furnace) ใช้สำหรับการอบวัสดุที่ไม่ต้องการอุณหภูมิสูงมาก เช่น การอบสี หรือการอบพลาสติก โดยอุณหภูมิในการทำงานจะไม่สูงเกิน 1,000 องศาเซลเซียส

5.เตาเผาแบบทางเดิน (Tunnel Furnace) เป็นเตาเผาที่มีโครงสร้างเหมือนอุโมงค์และใช้สำหรับการอบหรือเผาวัสดุที่เคลื่อนที่ผ่านเตา เช่น การผลิตเซรามิก กระเบื้อง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ต้องการการอบอย่างต่อเนื่อง

6.เตาเผาแบบสูญญากาศ (Vacuum Furnace) ใช้ในกระบวนการที่ต้องการให้ความร้อนในสภาพสูญญากาศหรือในบรรยากาศที่มีความดันต่ำ เช่น การอบหรือการอบเทอร์โมพลาสติก การอบวัสดุที่ไวต่อออกซิเจนหรือปฏิกิริยาทางเคมี

7.เตาเผาแบบไฟฟ้า (Electric Furnace) ใช้พลังงานไฟฟ้าในการให้ความร้อน เหมาะสำหรับกระบวนการที่ต้องการความแม่นยำในการควบคุมอุณหภูมิและอาจใช้ในงานหลอมโลหะหรืออบเซรามิก

8.เตาเผาแบบอุโมงค์ (Tunnel Kiln) เป็นเตาเผาที่ใช้สำหรับกระบวนการเผาหรืออบในปริมาณมาก โดยมีวัสดุเคลื่อนที่ผ่านช่องทางที่มีการควบคุมอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ

9.เตาเผาก๊าซ (Gas Furnace) ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในการสร้างความร้อน โดยมักใช้ในกระบวนการเผาหรืออบที่ไม่ต้องการอุณหภูมิสูงมาก เช่น การอบวัสดุพลาสติกหรือการอบสี

โดยที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนได้รับความนิยมทั้งสิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละประเภทเช่นกัน ซึ่งถ้าเราศึกษาหาความรู้มากพอ เราก็จะประหยัดในการลงทุน เพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควรในการเลือกซื้อ เพื่อมาใช้ในธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงใช้เตาเผาอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคล่องตัว ซึ่งทำให้ชิ้นงานนั้นผลิตออกมาได้ดี มีคุณภาพอีกด้วย ส่วนบทความหน้าจะเป็นอะไร ฝากติดตามกันด้วยนะครับ

เตาเผา